วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เก็บของลงกระเป๋าเอาอะไรไปญี่ปุ่นมั่ง

หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินแล้ว ได้ที่พักแล้ว พอจะรู้ที่เที่ยวคร่าวๆแล้ว ก็ถึงเวลาเตรียมตัวเดินทาง ซึ่งค่อนข้างจะตื่นเต้นและประหม่ามากๆสำหรับคนที่เพิ่งจะเคยเดินทางครั้งแรก ผมต้องเดินทางวันอังคารตอนเย็น วันจันทร์พอลูกเลิกเรียนผมก็ขับรถไปฝากไว้ที่บ้านยายที่ลำปาง และขับรถกลับมาตอนเช้า ก็ทำงานปกติ พอถึงเที่ยง ก็ลิสต์รายการของที่จะต้องเตรียมใส่กระเป๋า จากนั้นก็เริ่มจัดกระเป๋า เสร็จแล้วก็ออกไปแลกเงิน 


การแลกเงินนั้น ผมสอบถามมาหลายคน ส่วนมากจะแลกกันที่สนามบิน เพราะว่าสะดวกดี แต่ผมดูแล้วว่ามันสะดวกจริง แต่อัตราแลกมันไม่ค่อยดี ก็เลยไปแลกที่ร้านนึงในเชียงใหม่ ชื่อร้าน สากลธุรกิจ อยู่แถวๆไนท์ บาร์ซ่า ปรากฎว่าได้เรทดีกว่าธนาคารจริงๆด้วย และร้านนี้มีเรทเดียว คือ เวลาซื้อกับเวลาขายคืน ใช้เรทเดียวกัน ก็แปลกดี ผมยังสงสัยว่า ทำแบบนี้แล้วเขาจะได้กำไรได้อย่างไร 

ผมแลกเงินไป 80000 เยน สำหรับใช้สองคน ระยะเวลาเจ็ดวัน ไม่ค่อยพอนะครับ น่าจะแลกไปเผื่อด้วยอีกสักหน่อย แต่ถ้ากลัวไม่ปลดภัย ใช้ไปกด ATM เอาที่นั่นก็ได้ครับ แต่เสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 100 บาทนะครับ ผมเองก็กดที่ร้าน 7-Eleven ไปครั้งนึง
มาดูลิสของที่สำคัญกันนะครับ บางอย่างผมลืม เลยมาบอกไว้
  • Passport อันนี้สำคัญมาก พกไว้ใกล้ตัวให้ตลอด ผมเอาใส่เป้ที่สะพายไว้กับตัว ไม่เอาโหลดใต้เครื่องนะครับ และยังถ่ายเอกสารไว้อีกหนึ่งชุดด้วย ใบถ่ายสำเนาเอาไว้กระเป๋าใหญ่ได้ครับ
  • เงินเยน แลกไปพอสมควรนะครับ
  • เงินบาท ผมติดตัวไว้เล็กน้อย เผื่อใช้จ่ายที่สนามบิน
  • ตั๋วเครื่องบิน – ผมใช้วิธีเช็คอินผ่านเว็บเอาทั้งหมด สะดวกดีครับ ช่วยลดขั้นตอนการเสียเวลาลงได้นิดนึง ใครยังไม่เคยลองดูครับ ไม่ยากๆ http://www.thaiair.com/ -> Internet Check In ส่วนของ All Nippon Airways ไปที่ http://www.ana.co.jp/wws/us/e/local/reservation/ 
  • บัตรเครดิต ควรเอาไปอย่างน้อยสองใบ ผมเอาไปสองใบ สองธนาคาร ทั้งแบบ Visa และ Master กันเหนียวเผื่อใบไหนรูดไม่ได้ จะได้ใช้อีกใบนึง และเราสามารถโทรไปขอเฟิ่มวงเงินกับธนาคารเจ้าของบัตรในระหว่างเดินทางไปต่างประเทศได้ด้วยนะครับ ควรโทรล่วงหน้าก่อนเดินทางหนึ่งวัน ของผมโทรตอนเช้า เขาเพิ่มให้ก่อนห้าโมงเย็น โดยเพิ่มวงเงินให้อีกหนึ่งเท่าตัว ก็ดีครับ อุ่นใจเพิ่มมากขึ้น
  • ที่อยู่ของคนที่เราพักด้วย/โรงแรมที่เราจองไว้ เอาแบบละเอียด พร้อมเบอร์โทร มือถึอ เบอร์แฟ๊ก อีเมล์ หลักฐานการจอง ปรินท์ลงในแผ่นเดียวกันเลยครับ เวลาไปไม่ถูก หลงทาง หาไม่เจอ มันได้ใช้ประโยชน์
  • นาฬิกา ปกติอยู่เมืองไทย ผมไม่ใส่นะครับ แต่คราวนี้ต้องงัดมาใส่เสียแล้ว เวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าบ้านเราสองชั่วโมง พอลงเครื่องก็ตั้งเวลาใหม่เอาครับ
  • รองเท้าใส่สบายที่สุด อย่าเอารองเท่าที่สวยแต่กัดเท้ามาใส่เด็ดขาด เพราะท่านจะต้องเดิน เดิน แล้วก็เดิน วันนึงน่าจะหลายกิโลเมตรอยู่ เลือกเอาที่ใส่สบาย ไม่มีกลิ่นอับ พร้อมลุยได้ทุกสถานะการณ์จะดีมากครับ
  • หมวก/ถุงมือ อันนี้ผมลืมและไม่คิดว่าจะได้ใช้ อันที่จริงไปต่างประเทศเราควรเช็คสภาพอากาศให้ดี เพื่อจะได้เตรียมเส้ือผ้าให้เหมาะสม วันที่ผมไปถึงอุณหภูมิประมาณ 0-1 องศาในตอนกลางวัน หนาวจนแสบจมูกไปหมด ผมต้องเดินหาซื้อถุงมือและหมวดแถวๆนั้นเอา น่าจะจัดใส่กระเป๋าไปด้วยครับ
  • คู่มือพูดภาษาญี่ปุ่นอย่างง่าย แฟนผมซื้อต่อเพื่อนมา ราคามือสองห้าร้อยบาท เป็นแบบอังกฤษ-ญี่ปุ่น แฟนผมพูดอังกฤษไม่ได้ ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ หนังสือนี้ดีตรงที่มีภาพวาดประกอบเป็นการ์ตูน ใช้ง่าย พูดไม่ได้ก็เอานิ้วชี้ๆเอา เขาก็เข้าใจครับ ติดตัวไว้ใช้ สนุกดีด้วย


สิ่งที่ผมไม่เอาไป

- Laptop/Notebook ถ้าไม่มีงานที่ต้องทำจำเป็นจริงๆ ผมว่าไม่ควรเอาไป เพราะมันหนักกระเป๋า และเป็นภาระให้เราต้องคอยห่วงอยู่ตลอด ถ้าเอาโหลดใต้เครื่องก็มีโอกาสหายสูง ถ้าเอาติดตัวก็หนัก และเวลาถูกค้นก็ต้องเปิดกระเป๋าบ่อยๆ เข้าๆออกๆ กระแทกบ่อยๆ ผมคิดว่ามันอาจจะพังได้นะครับ ส่วนผมก็ใช้วิธีเช็คเมลที่ร้านเน็ตเอาครับ ถูก เร็ว ดี แต่ไม่มีแป้นไทย ก็พิมพ์อังกฤษเอาครับ แต่ถ้ามีงานเยอะมากๆที่ต้องทำ ผมก็แนะนำว่า อย่าเพิ่งไปเที่ยวครับ ทำงานให้เสร็จแล้ว แล้วค่อยไปก็ได้

โทรศัพท์มือถือ เอาไปก็ใช้ไม่ได้ครับ เว้นแต่จะเปิด Roaming ซึ่งก็แพงอีกรับทีบานเลยครับ เว้นแต่จะมีโปรอะไรน่าสนใจท่านก็ลองถามผู้ให้บริการที่ท่านใช้อยู่นะครับ 

หนังสือคู่มือหนาๆ เพราะเอาเข้าจริงไม่ค่อยได้ใช้ครับ ที่เราต้องการมากๆ คือแผนที่รถไฟ ซึ่งหาหยิบได้ตามสถานี หรือที่สนามบินอยู่แล้ว เอาไกด์บุ๊คบางๆ เล่มที่เราชอบไปสักสองเล่มก็เพียงพอแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น